5 ข้อน่ารู้ที่จะช่วยให้คุณเลือกกล้อง cctv ได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด

617

กล้องcctv เปรียบได้กับตาที่สามของคนสมัยนี้ เพราะไม่ว่าเราจะไปที่ไหนก็ตามบนโลกใบนี้ เราไม่ต้องมาคอยห่วงบ้านช่องหรือสถานที่ต่าง ๆ อีกต่อไป เพราะกล้องจะทำหน้าที่คอยตรวจตราคอยเฝ้าบ้าน เฝ้าออฟฟิศตลอดจนสถานที่ต่าง ๆ เราตลอด 24 ชั่วโมง

กล้อง CCTV คืออะไรมีหลักการอย่างไร

กล้องcctv ย่อมาจาก Closed Circuit Television  คือ ระบบที่บันทึกภาพออกมาในรูปแบบของภาพเคลื่อนไหวแล้วส่งต่อภาพนั้นไปยังอุปกรณ์ปลายทาง เช่น เครื่องบันทึกภาพ หรือ จอมอนิเตอร์ โดยกล้อง จะสามารถจับภาพได้เฉพาะบริเวณที่เราติดตั้งเอาไว้เท่านั้น

กล้องนิยมติดตั้งเพื่อดูแลความปลอดภัยและดูแลเรียบร้อยของอาคาร สถานที่ โรงเรียน โรงพยาบาล ธนาคารต่าง ๆ ในปัจจุบันมีการติดในบริเวณบ้านหรือคอนโดมิเนียมมากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ติดง่าย ไร้สายและตอบโจทย์ความสะดวกอีกมากมาย

ข้อควรรู้ก่อนคิดติดตั้งกล้อง cctv

ข้อควรรู้ก่อนคิดติดตั้งกล้อง cctv

ถึงแม้จะเป็นกล้องที่ใช้บันทึกภาพเคลื่อนไหวของบริเวณหรือสถานที่ที่เราต้องการเหมือนกัน แต่ว่าในแต่ละรุ่นก็มีรายละเอียดที่เหมาะสมกับอาคาร สถานที่ที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกรุ่นหรือยี่ห้อ ให้เราคำนึงถึงข้อต่าง ๆ เหล่านี้ก่อน รับรองว่าคุ้มเงินและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน

  1. เราต้องรู้ก่อนว่า กล้องแบบไหนเหมาะกับเรา

กล้องแบบไหนเหมาะกับเรา

โดยสิ่งแรกที่เราต้องรู้คือ ในท้องตลาดมี่ประเภทใดบ้าง จะได้เลือกได้เหมาะสมกับการใช้งานของเรา

แบบเครือข่าย เป็นระบบกล้อง ที่รองรับการทำงานบนระบบเครือข่ายได้เป็นอย่างดี สามารถเชื่อมผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้ สำหรับชนิดนี้จะเหมาะกับหน่วยงานขนาดใหญ่หน่อย เช่น โรงงานหรือหน่วยงานของรัฐบาลเป็นต้น

แบบมีสาย เป็นแบบที่เจอได้บ่อยสุด ค่อนข้างเหมาะกับการติดตั้งบริเวณบ้าน เนื่องด้วยข้อจำกัดเกี่ยวกับความคมชัดของภาพที่อาจจะน้อยกว่าแบบอื่น

แบบไร้สาย เป็นแบบที่มีความแม่นยำทำให้ได้รับความนิยมสูงสุด การติดตั้งก็ง่าย เหมาะกับการติดตามอพาร์ทเม้น ลอบบี้หรือบริเวณที่ไม่กว้างมาก เพราะมุมกล้องของกล้องวงจรปิดแบบไร้สายไม่กว้างมาก

ดังนั้นหากเราคิดจะติดตั้งไว้ที่บ้านก็อาจจะเลือกแบบมีสาย ถ้าติดตั้งสำหรับองคงค์กรใหญ่ ๆ ก็อาจจะมองเป็นประเภทแบบเครือข่ายเป็นต้น

  1. เลือกซื้อแบบไหนจะคุ้มค่าเงินทุกบาททุกสตางค์

เลือกซื้อแบบไหนจะคุ้มค่าเงิน

หลังจากที่เราทราบแล้วว่าประเภทใดเหมาะกับเรา ถัดมาเราจะมาดูรายละเอียดส่วนอื่น ๆ กันบ้างได้แก่

ความคมชัดของภาพ ถ้าต้องการความคมชัดมากกว่าปกติอาจมองเป็นกล้องอินฟาเรดที่สามารถจับภาพได้ดี

ชนิดกล้อง ด้วยความที่กล้องแต่ละชนิดมีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่ต่างกัน ดังนั้นเราต้องทราบข้อจำกัดของกล้องแต่ละชนิดก่อน เพื่อให้เราสามารถใช้งานได้คุ้มที่สุดเช่น ถ้าต้องการจับภาพแบบเห็นรอบทิศทาง ควรเลือกกล้องแบบหมุนได้รอบทิศทางไปเลย หากต้องการจับภาพที่สถานที่ใดสถานที่หนึ่งก็ให้มองเป็นกล้องแบบคงที่

นอกจากนั้น บางรุ่นเหมาะกับการใช้งานในร่มบางรุ่นเหมาะกับการใช้งานภายนอก บางชนิดภายใน หากเราไม่ทราบมาก่อนแล้วติดตั้งไม่เหมาะกับชนิดของกล้องก็อาจจะทำให้กล้องชำรุดเสียหายหรือมีอายุการใช้งานที่สั้นลงได้โดยแต่ละรุ่นก็มีดีไซน์ที่แตกต่างกัน บางรุ่นออกแบบมาให้ดูสวยงามหน่อย หากต้องการให้อาหารสถานที่ดูทันสมัยสวยงามก็ให้เลือกเป็นแบบโดม เป็นต้น

  1. เข้าใจการทำงานโดยทั่วไปของกล้องก่อน

 

เข้าใจการทำงานโดยทั่วไป

หลัก ๆ จะมี 2 แบบ คือ

  • ระบบอนาล็อค (Analog) เป็นระบบที่ค่อนข้างจะเก่า โดยจะต้องมีสายสัญญาณเพื่อเป็นตัวนำสัญญาณเข้าระบบ มีโอกาสที่ภาพจะไม่ชัดหรือถูกคลื่นต่าง ๆ รบกวนได้ง่าย
  • ระบบ IP เป็นระบบที่ทันสมัย ลดข้อจำกัดของระบบอนาล็อคลง โดยเป็นส่งสัญญาณในรูปแบบดิจิตอล มีความคมชัดมีทั้งชนิดใช้สายแลนและไร้สาย

ซึ่งถ้าเราต้องการแบบคุณภาพสูงก็อาจต้องเลือกเป็นระบบ IP เพราะความละเอียดสูงกว่า

  1. ทราบตำแหน่งที่เราจะติดตั้ง

ทราบตำแหน่งที่เราจะติดตั้ง

เนื่องจากกล้องบางชนิดก็จับภาพในที่มีแสงสว่างน้อยได้ดี แต่บางชนิดก็จับภาพได้ไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นเราต้องทราบก่อนว่าเราจะติดบริเวณไหน บริเวณนั้นมีแสงสว่างมากพอหรือไม่เช่นถ้าเป็นลานจอดรถที่มีแสงน้อยอยู่แล้ว ควรเลือกแบบอินฟราเรด เพราะในตอนกลางวันจะบันทึกและได้เป็นภาพสี ส่วนตอนกลางคืนจะมีหลอด LED ที่หน้ากล้อง ทำให้เกิดแสงสว่างแบบอัตโนมัติ จะได้เป็นภาพขาวดำ

  1. ประกันสินค้าและบริการหลังการขายสำคัญมาก

ประกันสินค้าและบริการหลังการขาย

กล้องcctv จะทำหน้าที่สังเกตการณ์ให้เราตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ดังนั้นเท่ากับเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานหนักมาก เวลาเลือกนอกจากจะดูที่คุณภาพแล้ว ประกันและบริการหลังการขายต่าง ๆ ก็มีความสำคัญอย่างมาก เพราะต่อให้เราเลือกดีแค่ไหน แต่สมมติกล้องเกิดมีปัญหา แต่ทางร้านไม่มีประกันก็เป็นปัญหาในระยะยาวอยู่ดี

ดังนั้นเพื่อให้ชัวร์ มั่นใจ โอกามิ เอนเตอร์ ไพรซ์จำกัดให้บริการมากว่า 15 ปี พร้อมดูแลตั้งแต่ต้นจนจบพร้อมการดูแลหลังการขายและประกันหลังติดตั้ง 100%